สำหรับผู้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ควรซื้ออุปกรณ์มาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์เอง ควรเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จัดขายเป็นชุดสำเร็จรูปแล้ว และเลือกซื้อจากบริษัท, ห้างร้านที่เชื่อถือได้
ตัวอย่างชุดคอมพิวเตอร์สำเร็จ
ลำดับที่ | อุปกรณ์ | คุณลักษณะ |
1 | ซีพียู | AMD FX-8350 |
2 | เมนบอร์ด | ASROCK 970 Extreme3 |
3 | แรม | G.SKILL SNIPER DDR3 8GB 1866 (4GBx2) |
4 | ฮาร์ดดิสก์ | Western DigitalBlue 1TB WD500AAKX |
5 | เคส | AERO CooL Strike X One AD USB 3.0 |
6 | การ์ดแสดงผล | GIGABYTE GTX760 OC |
สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เองตามที่ต้องการหรือเพื่อปรับปรุงอุปกรณ์บางอย่าง เช่น ซีพียู เมนบอร์ด หรือ แรม อุปกรณ์เหล่านี้มีการปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เราควรมีหลักในการพิจารณาเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละชนิด ดังนี้
3.4.1. ซีพียู เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญที่สุดและเป็นปัจจัยแรกในการพิจารณาเมื่อคิดที่จะซื้อหรือประกอบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีผลต่อการเลือกซื้ออุปกรณ์อื่น เช่น เมนบอร์ด เป็นต้น ในการเลือกซื้อซีพียูสามารถพิจารณาได้จากหลายปัจจัย เช่น บริษัทผู้ผลิต ความเร็วซีพียู แคช ความเร็วบัส เป็นต้น
เปรียบเทียบซีพียู
Intel รุ่น Core i7 – 4770K – Socket : LGA1150 – CPU Core : 4 – Thread : 8 – ความเร็ว CPU : 3.50 GHz – Turbo : 3.90 GHz – Cache : L3 8MB ราคา : 11,700 บาท | AMD รุ่น FX-9590 – Socket : AM3+ – CPU Core : 8 – Thread : 8 – ความเร็ว CPU : 4.7 GHz – Turbo : 5.00 GHz – Cache : L2/L3 8 MB ราคา : 11,500 บาท |
3.4.2 เมนบอร์ด (mainboard) หรืออาจเรียกว่า มาเธอร์บอร์ด หรือโมโบ(motherboard: mobo) เป็นแผงวงจรหลักของคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยช่องติดตั้งซีพียู ไบออส ชิปเซ็ต ช่องสำหรับติดตั้งหน่วยความจำสายสัญญาณและบัสต่างๆขั้วต่อสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมภายใน เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีไดร์ฟ และพอร์ตต่ออุปกรณ์รอบข้าง เช่น เมาส์ และ คีย์บอร์ด
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนเมนบอร์ด หรือต้องการซื้อเมนบอร์ดเพื่อนำมาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อเมนบอร์ด เช่น ซ็อกเก็ตซีพียู ฟรอนต์ไซด์บัส สล็อตหน่วยความจำ ช่องสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆหรือสล็อต ขั้วต่อและรูปแบบหรือฟอร์มแฟกเตอร์ ตัวอย่างรายละเอียดเมนบอร์ดที่ระบุขายในเว็บไซด์
ตัวอย่างพอร์ต | |
พอร์ต
|
รายละเอียด
|
พอร์ตยูเอสบี(Universal Serial Bus: USB) | พอร์ตอนุกรมชนิดใหม่ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันเนื่องจากมีอัตราการรับส่งข้อมูลที่เร็วกว่าพอร์ตอนุกรม และพอร์ตขนาน มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมโดยทั่วไปมักจะมี 2พอร์ต หรืออาจมากกว่า |
พอร์ตไฟร์ไวร์(Fire Wire) | พอร์ตที่ใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ เช่น กล้องวีดิทัศน์และฮาร์ดดิสก์ พอร์ตไฟร์ไวร์มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 400 Mbpsหรือ 800 Mbpa |
3.4.3 แรม ในการเลือกซื้อแรมเพื่อนำมาใช้งานกับพีซี มักจะเป็นแรมชนิดดีดีอาร์เอสดีแรม(Double Data Rate Synchronous Dynamic RAM : DDR SDRAM) ซึ่งจะต้องพิจารณาประเภทของแรมให้ตรงกับสล็อตหน่วยความจำบนเมนบอร์ด และสิ่งที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปควรให้ความสำคัญในลำดับต่อมาคือ ขนาดความจุ และความเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย
1.) ประเภทของแรม ต้องพิจารณาเลือกซื้อให้ตรงกับสล็อตหน่วยความจำบนเมนบอร์ด แรมที่ใช้พีซี เช่น DDR, DDR2และ DDR3 โดยแรมแต่ละชนิดจะมีตำแหน่งรอยบากที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถเสียบแรมบนสล็อตได้ถูกต้อง
2.) ความจุ ปัจจุบันแรมมีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 256 MB ขึ้นไป เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานด้านกราฟิกหรือ มัลติมิเดียระดับสูง จะใช้แรมที่มีความจุสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับเครื่ององคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันมักจะติดตั้งแรมความจุ 4 GB ขึ้นไป
3.) ความเร็วของแรม ความเร็วของแรม หมายถึง จำนวนครั้งที่สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้ภายในหนึ่งวินาที โดยมีหน่วยวัดเป็น เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เช่น DDR3 มีความเร็ว 1,333 MHz เป็นต้น ผู้ใช้งานต้องเลือกความเร็วของแรมให้สอดคล้องกับความเร็วของเมนบอร์ดด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าระบบบัสบนเมนบอร์ด(FSB) ทำงานด้วยความเร็ว 1,066 MHz แต่นำแรมที่มีความเร็ว 1,333 MHz มาใช้งานจะไม่สามารถทำงานที่ความเร็ว 1,333 MHz ได้
การเลือกความจุของแรมให้ตรงเหมาะสมกับงาน | |
ประเภทของงานงาน | ความจุของแรม |
งานเอกสาร หรืองานในสำนักงาน | อย่างต่ำ 2 GB |
งานกราฟิก | อย่างต่ำ 4 GB |
การออกแบบที่ต้องแสดงผลเป็น 3 มิติ | อย่างต่ำ 8 GB |
ปัญหาคอขวด
ในการเลือกซื้อเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ ความเร็วบัสที่บอกไว้ จะเป็นความเร็วของฟรอนต์ไซด์บัส (FSB) ดังนั้นถ้าหากต้องการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ประมวลผลได้ประสิทธิภาพดีที่สุด จะต้องเลือกแรมที่มีความเร็วรองรับความเร็วของฟรอนต์ไซด์บัสนี้ด้วย ถ้าหากแรมมีความเร็วน้อยกว่าความเร็วของฟอรนต์ไซด์บัสจะทำให้เกิดปัญหาคอขวดได้เช่นกัน
3.4.4. ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ใน PC โดยทั่วไปคือ ฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว สำหรับฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 และ 1.8 นิ้วนั้นนิยมใช้ใน Notebook
การพิจารณาเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อ ความจุของข้อมูล และความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ฮาร์ดดิสก์มีราคาที่แตกต่างกัน ปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์ มีดังนี้
1. การเชื่อมต่อ มาตรฐานการเชื่อมต่อใช้มาตราฐาน EIDE และ SATA ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดด้วย แต่ในปัจจุบันจะนิยมใช้มาตรฐาน SATA
3. ความเร็วรอบ เป็นอัตราความเร็วในการหมุนของฮาร์ดดิสก์เพื่อให้หัวอ่าน – เขียน เข้าถึงข้อมูลได้ ฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วรอบสูงจะทำให้มีอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงโดยทั่วไปจะมีความเร็วอยู่ที่ 7200 รอบ/นาที (rpm)
3.4.5 การ์ดแสดงผล (Display card, Graphics card หรือ Video card) ทำหน้าที่แปลงข้อมูล Digital มาเป็นสัญญาณที่ส่งไปที่จอภาพ การ์ดแสดงผลอาจอยู่ในรูปแบบการ์ดหรืออาจติดตั้งมาบนเมนบอร์ดแล้ว ในการเลือกซื้อการ์ดประมวลผลจะมีปัจจัยที่ใช้ในการเลือกซื้อ ดังนี้
1. ชิปประมวลผลการฟิก หรือจีพียู (Graphic Processing Unit : GPU) เป็นอุปกรณ์พิเศษที่เพิ่มความเร็วในการแสดงผลโดยลดภาระซีพียูในการคำนวณข้อมูลที่จะส่งไปที่จอภาพ
2. การเชื่อมต่อ ปัจจุบันนิยมใช้ 2 แบบด้วยกันคือแบบ PCI Express และแบบ AGP ซึ่งขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดด้วย
3. ความจุของหน่วยความจำบนการ์ด หน่วยความจำบนการ์ด (Video RAM) เป็นส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลภาพที่แสดงบนจอคอมพิวเตอร์ ถ้าความจุของหน่วยความจำมาก จะทำให้แสดงภาพมัลติมีเดียความละเอียดสูงได้ดีขึ้นด้วย
3.4.6 ออปติคัลดิสท์ไดร์ฟ (Optical Disk Drive) เป็นอุปกรณ์พืั้นฐานที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องควรมี เนื่องจาก CD/DVD มีราคาถูกลงมากและนิยมใช้กันมากขึ้นด้วย
3.4.7 เคส (Case) โดยทั่วไปมักมีลักษณะเป็นกล่องสีเหลี่ยม ทำหน้าที่เป็นโครงยึดให้อุปกรณ์ภายในต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งเมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ แหล่งจ่ายไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเคส หลักในการพิจารณาเลือกซื้อเคส มีดังนี้
– มีช่องระบายอากาศและระบบระบายความร้อน
– มีพื้นที่หรือช่องที่จะเพิ่มอุปกรณ์ได้ เช่น การเพิ่มฮาร์ดดิสก์ การเพิ่ม CD/DVD Drive
– ลักษณะของเคส เช่น เคสในแนวนอน ที่เรียกว่า “Desktop Case” และเคสในแนวตั้งที่เรียกว่า “Tower Case”
3.4.8 จอภาพ (Monitor) ที่พบมีอยู่ 2 ประเภทคือจอแบบ CRT และจอแบบ LCD ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้จอแบบ LCD เป็นหลักเพราะมีราคาถูก ถนอมสายตา ประหยัดพลังงาน และใช้พื้นที่ในการจัดวางน้อย ปัจจัยในการเลือกซื้อจอภาพ เช่น
– ความละเอียดของภาพ (Resolution) หมายถึง จำนวนจุดหรือ Pixel บนจอภาพ ถ้าหากมีความละเอียดสูงก็จะทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น เช่น จอภาพที่มีความละเอียด 1680 x 1050 คือ จอภาพที่มีจุดภาพในแนวนอน 1680 จุด และมีจุดภาพในแนวตั้ง 1050 จุด
– ขนาด (Size) ขนาดของจอภาพจะวัดเป็นแนวทแยงมุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น