อ้างอิง https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/hardware/index2.htm
วรรณิการ์ สอนสกุล
วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2560
1.ความรู้เกี่ยวกับไมโครคอมพิวเตอร์
2.อุปกรณ์พกพา
อุปกรณ์พกพา
2.1 คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค
2.2 คอมพิวเตอร์ Tablet
2.3 Smartphone

ระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา
สำหรับฉบับนี้เรามาทำความรู้จักกับระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์พกพา (Operating System for Mobile) ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน
1. iOS (ไอโอเอส) หรือชื่อเดิมคือ iPhone OS (ไอโฟนโอเอส)1
ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาโดย Apple Inc. หรือในชื่อเดิมคือ Apple Computer Inc เพื่อรองรับอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ เช่น iPhone , iPad, iPod เป็นต้น ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application Store ได้จาก Apple App Store
2. Android (แอนดรอยด์)
ระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาโดย Android Inc. จากนั้นบริษัท Google ได้เข้าซื้อกิจการรวมทั้งบุคลากรทั้งหมด เพื่อนำมาพัฒนาต่อ ซึ่งระบบดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้กับอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Smartphone, Tablet , Notebook เป็นต้น ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงApplication Store ได้จาก Google Play Store
3. Windows Phone (วินโดว์โฟน)
ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์มือถือเวอร์ชันล่าสุด (โดยก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่าWindows Mobile) ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application Store ได้จาก Windows Phone Store
4. BlackBerry OS (แบล็กเบอร์รีโอเอส)
ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท RIM (Research In Motion) ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารภายใต้ยี่ห้อ BlackBerry (แต่ปัจจุบันRIM ได้เปลี่ยนชื่อเป็น BlackBerry เพื่อให้สอดคล้องกับชื่อแบรนด์ของสินค้าหลัก) ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application Store ได้จากBlackBerry App Word
5. Symbian OS (ซิมเบียน)

ระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท SymbianLtd. และเป็นหนึ่งใน OS ที่บริษัท Nokia พัฒนาเพื่อนำมาใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ของNokia เอง โดยมีจุดเด่นคือเป็นระบบเปิด ผู้ใช้สามารถที่จะนำโปรแกรมอื่น ๆ ที่เขียนขึ้นมาเพื่อใช้งานรองรับ Symbian มาลงเพิ่มในเครื่องได้เอง ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Application Store ได้จาก Nokia Ovi Store
ปัจจุบันบริษัท Nokia เริ่มจะลดความสำคัญในการพัฒนา Symbian OS แล้วหันมาจับมือกับ บริษัท Microsoft ในการพัฒนาโทรศัพท์มือถือ Nokia ให้ใช้งานได้กับ Windows Phone OS แทน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : https://sites.google.com/site/computer15832042001/bth-thi-3-xupkrn-phk-pha/3-3-xupkrn-baeb-phk-pha
3.การเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์
การเลือกซื้ออุปกรณ์
สำหรับผู้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ ไม่ควรซื้ออุปกรณ์มาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์เอง ควรเลือกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่จัดขายเป็นชุดสำเร็จรูปแล้ว และเลือกซื้อจากบริษัท, ห้างร้านที่เชื่อถือได้
ตัวอย่างชุดคอมพิวเตอร์สำเร็จ
ลำดับที่ | อุปกรณ์ | คุณลักษณะ |
1 | ซีพียู | AMD FX-8350 |
2 | เมนบอร์ด | ASROCK 970 Extreme3 |
3 | แรม | G.SKILL SNIPER DDR3 8GB 1866 (4GBx2) |
4 | ฮาร์ดดิสก์ | Western DigitalBlue 1TB WD500AAKX |
5 | เคส | AERO CooL Strike X One AD USB 3.0 |
6 | การ์ดแสดงผล | GIGABYTE GTX760 OC |
สำหรับผู้ที่ต้องการเลือกซื้อชิ้นส่วนต่าง ๆ มาประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์เองตามที่ต้องการหรือเพื่อปรับปรุงอุปกรณ์บางอย่าง เช่น ซีพียู เมนบอร์ด หรือ แรม อุปกรณ์เหล่านี้มีการปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว เราควรมีหลักในการพิจารณาเลือกซื้ออุปกรณ์แต่ละชนิด ดังนี้
3.4.1. ซีพียู เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญที่สุดและเป็นปัจจัยแรกในการพิจารณาเมื่อคิดที่จะซื้อหรือประกอบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีผลต่อการเลือกซื้ออุปกรณ์อื่น เช่น เมนบอร์ด เป็นต้น ในการเลือกซื้อซีพียูสามารถพิจารณาได้จากหลายปัจจัย เช่น บริษัทผู้ผลิต ความเร็วซีพียู แคช ความเร็วบัส เป็นต้น
เปรียบเทียบซีพียู
Intel รุ่น Core i7 – 4770K – Socket : LGA1150 – CPU Core : 4 – Thread : 8 – ความเร็ว CPU : 3.50 GHz – Turbo : 3.90 GHz – Cache : L3 8MB ราคา : 11,700 บาท | AMD รุ่น FX-9590 – Socket : AM3+ – CPU Core : 8 – Thread : 8 – ความเร็ว CPU : 4.7 GHz – Turbo : 5.00 GHz – Cache : L2/L3 8 MB ราคา : 11,500 บาท |
3.4.2 เมนบอร์ด (mainboard) หรืออาจเรียกว่า มาเธอร์บอร์ด หรือโมโบ(motherboard: mobo) เป็นแผงวงจรหลักของคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปจะประกอบไปด้วยช่องติดตั้งซีพียู ไบออส ชิปเซ็ต ช่องสำหรับติดตั้งหน่วยความจำสายสัญญาณและบัสต่างๆขั้วต่อสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมภายใน เช่น ฮาร์ดดิสก์ ซีดีไดร์ฟ และพอร์ตต่ออุปกรณ์รอบข้าง เช่น เมาส์ และ คีย์บอร์ด
สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนเมนบอร์ด หรือต้องการซื้อเมนบอร์ดเพื่อนำมาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกซื้อเมนบอร์ด เช่น ซ็อกเก็ตซีพียู ฟรอนต์ไซด์บัส สล็อตหน่วยความจำ ช่องสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆหรือสล็อต ขั้วต่อและรูปแบบหรือฟอร์มแฟกเตอร์ ตัวอย่างรายละเอียดเมนบอร์ดที่ระบุขายในเว็บไซด์
ตัวอย่างพอร์ต | |
พอร์ต
|
รายละเอียด
|
พอร์ตยูเอสบี(Universal Serial Bus: USB) | พอร์ตอนุกรมชนิดใหม่ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันเนื่องจากมีอัตราการรับส่งข้อมูลที่เร็วกว่าพอร์ตอนุกรม และพอร์ตขนาน มีลักษณะเป็นช่องสี่เหลี่ยมโดยทั่วไปมักจะมี 2พอร์ต หรืออาจมากกว่า |
พอร์ตไฟร์ไวร์(Fire Wire) | พอร์ตที่ใช้ในการส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ เช่น กล้องวีดิทัศน์และฮาร์ดดิสก์ พอร์ตไฟร์ไวร์มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ 400 Mbpsหรือ 800 Mbpa |
3.4.3 แรม ในการเลือกซื้อแรมเพื่อนำมาใช้งานกับพีซี มักจะเป็นแรมชนิดดีดีอาร์เอสดีแรม(Double Data Rate Synchronous Dynamic RAM : DDR SDRAM) ซึ่งจะต้องพิจารณาประเภทของแรมให้ตรงกับสล็อตหน่วยความจำบนเมนบอร์ด และสิ่งที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปควรให้ความสำคัญในลำดับต่อมาคือ ขนาดความจุ และความเร็ว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย
1.) ประเภทของแรม ต้องพิจารณาเลือกซื้อให้ตรงกับสล็อตหน่วยความจำบนเมนบอร์ด แรมที่ใช้พีซี เช่น DDR, DDR2และ DDR3 โดยแรมแต่ละชนิดจะมีตำแหน่งรอยบากที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถเสียบแรมบนสล็อตได้ถูกต้อง
2.) ความจุ ปัจจุบันแรมมีให้เลือกตั้งแต่ความจุ 256 MB ขึ้นไป เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานด้านกราฟิกหรือ มัลติมิเดียระดับสูง จะใช้แรมที่มีความจุสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับเครื่ององคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันมักจะติดตั้งแรมความจุ 4 GB ขึ้นไป
3.) ความเร็วของแรม ความเร็วของแรม หมายถึง จำนวนครั้งที่สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้ภายในหนึ่งวินาที โดยมีหน่วยวัดเป็น เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เช่น DDR3 มีความเร็ว 1,333 MHz เป็นต้น ผู้ใช้งานต้องเลือกความเร็วของแรมให้สอดคล้องกับความเร็วของเมนบอร์ดด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าระบบบัสบนเมนบอร์ด(FSB) ทำงานด้วยความเร็ว 1,066 MHz แต่นำแรมที่มีความเร็ว 1,333 MHz มาใช้งานจะไม่สามารถทำงานที่ความเร็ว 1,333 MHz ได้
การเลือกความจุของแรมให้ตรงเหมาะสมกับงาน | |
ประเภทของงานงาน | ความจุของแรม |
งานเอกสาร หรืองานในสำนักงาน | อย่างต่ำ 2 GB |
งานกราฟิก | อย่างต่ำ 4 GB |
การออกแบบที่ต้องแสดงผลเป็น 3 มิติ | อย่างต่ำ 8 GB |
ปัญหาคอขวด
ในการเลือกซื้อเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ ความเร็วบัสที่บอกไว้ จะเป็นความเร็วของฟรอนต์ไซด์บัส (FSB) ดังนั้นถ้าหากต้องการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ประมวลผลได้ประสิทธิภาพดีที่สุด จะต้องเลือกแรมที่มีความเร็วรองรับความเร็วของฟรอนต์ไซด์บัสนี้ด้วย ถ้าหากแรมมีความเร็วน้อยกว่าความเร็วของฟอรนต์ไซด์บัสจะทำให้เกิดปัญหาคอขวดได้เช่นกัน
3.4.4. ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ใน PC โดยทั่วไปคือ ฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว สำหรับฮาร์ดดิสก์ขนาด 2.5 และ 1.8 นิ้วนั้นนิยมใช้ใน Notebook
การพิจารณาเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วยกัน เช่น การเชื่อมต่อ ความจุของข้อมูล และความเร็วรอบของฮาร์ดดิสก์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ฮาร์ดดิสก์มีราคาที่แตกต่างกัน ปัจจัยในการพิจารณาเลือกซื้อฮาร์ดดิสก์ มีดังนี้
1. การเชื่อมต่อ มาตรฐานการเชื่อมต่อใช้มาตราฐาน EIDE และ SATA ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดด้วย แต่ในปัจจุบันจะนิยมใช้มาตรฐาน SATA
3. ความเร็วรอบ เป็นอัตราความเร็วในการหมุนของฮาร์ดดิสก์เพื่อให้หัวอ่าน – เขียน เข้าถึงข้อมูลได้ ฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วรอบสูงจะทำให้มีอัตราเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงโดยทั่วไปจะมีความเร็วอยู่ที่ 7200 รอบ/นาที (rpm)
3.4.5 การ์ดแสดงผล (Display card, Graphics card หรือ Video card) ทำหน้าที่แปลงข้อมูล Digital มาเป็นสัญญาณที่ส่งไปที่จอภาพ การ์ดแสดงผลอาจอยู่ในรูปแบบการ์ดหรืออาจติดตั้งมาบนเมนบอร์ดแล้ว ในการเลือกซื้อการ์ดประมวลผลจะมีปัจจัยที่ใช้ในการเลือกซื้อ ดังนี้
1. ชิปประมวลผลการฟิก หรือจีพียู (Graphic Processing Unit : GPU) เป็นอุปกรณ์พิเศษที่เพิ่มความเร็วในการแสดงผลโดยลดภาระซีพียูในการคำนวณข้อมูลที่จะส่งไปที่จอภาพ
2. การเชื่อมต่อ ปัจจุบันนิยมใช้ 2 แบบด้วยกันคือแบบ PCI Express และแบบ AGP ซึ่งขึ้นอยู่กับเมนบอร์ดด้วย
3. ความจุของหน่วยความจำบนการ์ด หน่วยความจำบนการ์ด (Video RAM) เป็นส่วนที่ใช้เก็บข้อมูลภาพที่แสดงบนจอคอมพิวเตอร์ ถ้าความจุของหน่วยความจำมาก จะทำให้แสดงภาพมัลติมีเดียความละเอียดสูงได้ดีขึ้นด้วย
3.4.6 ออปติคัลดิสท์ไดร์ฟ (Optical Disk Drive) เป็นอุปกรณ์พืั้นฐานที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องควรมี เนื่องจาก CD/DVD มีราคาถูกลงมากและนิยมใช้กันมากขึ้นด้วย
3.4.7 เคส (Case) โดยทั่วไปมักมีลักษณะเป็นกล่องสีเหลี่ยม ทำหน้าที่เป็นโครงยึดให้อุปกรณ์ภายในต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งเมนบอร์ด ฮาร์ดดิสก์ แหล่งจ่ายไฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ในการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ภายในเคส หลักในการพิจารณาเลือกซื้อเคส มีดังนี้
– มีช่องระบายอากาศและระบบระบายความร้อน
– มีพื้นที่หรือช่องที่จะเพิ่มอุปกรณ์ได้ เช่น การเพิ่มฮาร์ดดิสก์ การเพิ่ม CD/DVD Drive
– ลักษณะของเคส เช่น เคสในแนวนอน ที่เรียกว่า “Desktop Case” และเคสในแนวตั้งที่เรียกว่า “Tower Case”
3.4.8 จอภาพ (Monitor) ที่พบมีอยู่ 2 ประเภทคือจอแบบ CRT และจอแบบ LCD ซึ่งในปัจจุบันนิยมใช้จอแบบ LCD เป็นหลักเพราะมีราคาถูก ถนอมสายตา ประหยัดพลังงาน และใช้พื้นที่ในการจัดวางน้อย ปัจจัยในการเลือกซื้อจอภาพ เช่น
– ความละเอียดของภาพ (Resolution) หมายถึง จำนวนจุดหรือ Pixel บนจอภาพ ถ้าหากมีความละเอียดสูงก็จะทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น เช่น จอภาพที่มีความละเอียด 1680 x 1050 คือ จอภาพที่มีจุดภาพในแนวนอน 1680 จุด และมีจุดภาพในแนวตั้ง 1050 จุด
– ขนาด (Size) ขนาดของจอภาพจะวัดเป็นแนวทแยงมุม
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)